ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (8 ต.ค.) ราคาถั่วเหลืองแพงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากเทรดเดอร์และคนในวงการส่วนใหญ่เชื่อว่า ผลผลิตต่อไร่จากการเก็บเกี่ยวในสหรัฐฯ ปีนี้จะออกมาต่ำกว่าที่รัฐบาลเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เกษตรกรยังไม่รีบนำถั่วเหลืองออกมาขาย เนื่องจากกำลังรอดูท่าทีการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และรอฟังรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ +0.54% ปิดที่ 4.2200 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ หรือ +0.10% ปิดที่ 5.0725 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 7.50 เซนต์ หรือ +0.73% ปิดที่ 10.2950 ดอลลาร์/บุชเชล
นอกจากนี้ ราคาถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ในประเทศอาร์เจนตินาอีกด้วย โดยคนงานในโรงงานแปรรูปถั่วเหลืองได้ประกาศนัดหยุดงานในสัปดาห์นี้
ด้านราคาข้าวโพดขยับสูงขึ้นตามถั่วเหลือง เพราะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดตัวเลขผลผลิตต่อไร่ลงเช่นกัน แต่ราคาข้าวโพดก็ปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะในภาพรวมแล้วผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ ทั้งหมดในปีนี้คาดว่าจะยังคงมีปริมาณสูงเป็นประวัติการณ์
ส่วนราคาข้าวสาลีก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อคืนเพื่อชดเชยการขายชอร์ต (short covering) ก่อนหน้านี้ ราคาข้าวสาลีได้ร่วงลงไปอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการชั่วคราว (Government Shutdown) ทำให้การรายงานข้อมูลสำคัญ ๆ ด้านการเกษตร เช่น ปริมาณผลผลิตและอุปสงค์-อุปทาน ต้องหยุดชะงักลง ตลาดจึงขาดตัวชี้นำที่เคยใช้เป็นปกติ