ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (20 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยสัญญาถั่วเหลืองพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนจากความเชื่อมั่นที่กลับมาอีกครั้งต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเชื่อว่า จีนจะยอมตกลงในข้อตกลงการค้าถั่วเหลือง และจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อีกครั้ง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ +0.18% ปิดที่ 4.2325 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 5.0475 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 12.25 เซนต์ หรือ +1.20% ปิดที่ 10.3175 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวขึ้นตามถั่วเหลือง แต่ปริมาณอุปทานที่ยังล้นตลาดจำกัดแรงบวกของราคาไว้
สัญญาถั่วเหลืองปรับขึ้นก่อนการพบปะระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปลายเดือนนี้ที่เกาหลีใต้ โดยทรัมป์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาต้องการให้จีนกลับมาซื้อถั่วเหลือง "อย่างน้อยในปริมาณเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้" และเชื่อว่าข้อตกลงด้านถั่วเหลืองจะเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ จีนไม่ได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2561 ที่ยอดนำเข้าลดลงเหลือศูนย์ โดยผู้ซื้อชาวจีนหันไปสั่งสินค้าจากอเมริกาใต้แทน ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
สัญญาข้าวโพดได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของถั่วเหลือง แต่ยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับโคลอมเบีย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเทศผู้นำเข้าข้าวโพดรายใหญ่ของสหรัฐฯ
เกษตรกรสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลือง โดยไม่มีรายงานจากหน่วยงานสถิติของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วนักวิเคราะห์คาดว่าการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในสหรัฐฯ เสร็จสิ้นไปแล้วราว 73% ภายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนข้าวโพดเก็บเกี่ยวแล้วราว 59%
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวสาลี ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่แตะไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากอุปทานข้าวสาลีทั่วโลกยังมีปริมาณมาก