ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (3 พ.ย.) สัญญาถั่วเหลืองทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน โดยมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังว่าจีนจะกลับมาสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในปริมาณมากอีกครั้ง ภายหลังทั้งสองชาติบรรลุข้อตกลงเพื่อบรรเทาความรุนแรงของสงครามการค้า ขณะเดียวกัน ราคาข้าวสาลีก็ปรับตัวสูงขึ้นจากรายงานที่ระบุว่าจีนแสดงความสนใจที่จะซื้อข้าวสาลีจากสหรัฐฯ ส่วนราคาข้าวโพดก็เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.64% ปิดที่ 4.3425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.50 เซนต์ หรือ +1.78% ปิดที่ 5.4350 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 19.00 เซนต์ หรือ +1.70% ปิดที่ 11.3425 ดอลลาร์/บุชเชล
ความหวังต่ออุปสงค์จากจีนยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาดธัญพืชสหรัฐฯ โดยราคาสัญญาถั่วเหลือง ข้าวสาลี และข้าวโพด ได้ย่อตัวลงชั่วคราวจากรายงานข่าวที่ว่าผู้นำเข้าจีนได้เพิ่มการสั่งซื้อสินค้าจากบราซิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนที่ตลาดจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
ตลาดปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จีนตกลงที่จะสั่งซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ปริมาณหลายล้านตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการค้า ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดข้อพิพาททางการค้า จีนได้หันไปนำเข้าจากอเมริกาใต้แทนสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี การปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ ได้ส่งผลให้นักลงทุนและผู้ค้าในตลาดไม่ได้รับข้อมูลยอดขายเพื่อการส่งออกใหม่ ๆ ซึ่งโดยปกติจะมีการประกาศผ่านรายงานยอดขายด่วนรายวันจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ทำสัญญาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ จำนวน 3 ลำเรือ ซึ่งนับเป็นการสั่งซื้อครั้งแรกจากผลผลิตในฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้ของสหรัฐฯ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ทำเนียบขาวได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งครอบคลุมถึงเจตนาของจีนในการสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ
ขณะนี้ ผู้ค้าในตลาดกำลังจับตารอประกาศอย่างเป็นทางการจากจีน เกี่ยวกับการปรับลดภาษีตอบโต้ทางการค้าสำหรับสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยเปิดช่องทางให้สหรัฐฯ สามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้ในปริมาณที่มากขึ้น