ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (24 พ.ย.) สัญญาธัญพืชปิดลบทั้งกระดาน โดยสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบ 17 เดือนของเมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูความชัดเจนว่าจีนจะซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ เพิ่มเติมหรือไม่ หลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไร้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.75 เซนต์ หรือ -0.17% ปิดที่ระดับ 4.3675 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ -0.93% ปิดที่ 5.3475 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.75 เซนต์ หรือ -0.16% ปิดที่ 11.2325 ดอลลาร์/บุชเชล
แม้สัปดาห์ที่แล้วจีนซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ ไปแล้ว 1.584 ล้านตัน และกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เพิ่งประกาศว่าขายให้จีนเพิ่มอีก 1.23 แสนตันสำหรับการส่งมอบปีการผลิต 2568/69 แต่ตลาดยังคงผิดหวัง เพราะตัวเลขยังห่างไกลจากเป้าหมาย 12 ล้านตันภายในสิ้นปีนี้ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยระบุไว้ว่าจีนจะซื้อ หลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันเพียงว่า ผู้นำทั้งสองได้โทรศัพท์หารือกันจริง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า การพูดคุยเป็นประเด็นเรื่องไต้หวันกับสงครามในยูเครน
ด้านบรุค โรลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เผยว่า รัฐบาลทรัมป์เตรียมประกาศแพ็กเกจเยียวยาเกษตรกรภายใน 2 สัปดาห์ และจะมีข้อตกลงซื้อขายถั่วเหลืองกับจีนตามมา แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม
แดน บาสส์ ประธานบริษัทที่ปรึกษา AgResource กล่าวว่า "ตลาดกำลังงงว่า 'ตกลงเขาคุยอะไรกันแน่' ความไม่แน่นอนนี้ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเปิดสถานะเก็งกำไรมากนัก ไม่ว่าจะฝั่งซื้อ (Long) หรือฝั่งขาย (Short)"
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงเพราะเจอกับภาวะผลผลิตล้นตลาดโลก โดยเฉพาะราคาข้าวสาลีจากรัสเซียที่ปรับตัวลง และการเปิดประมูลซื้อข้าวสาลีของซาอุดีอาระเบียที่กดราคาต่ำ ซึ่งคาดว่าข้าวสาลีจากแถบทะเลดำและอาร์เจนตินา (ที่ผลผลิตทุบสถิติ) จะชนะการประมูล ส่งผลกดดันให้สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงตามไปด้วย
ซูซาน สเตราด์ นักวิเคราะห์จาก No Bull Agriculture ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ค่าพรีเมียม (ส่วนต่างราคา) ของถั่วเหลืองบราซิลลดต่ำลง ทำให้ราคาถูกกว่าของสหรัฐฯ และกลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้นำเข้าทั่วโลก
"โจทย์ใหญ่คือ ตลาดเริ่มสงสัยว่าจะมีการซื้อขายเกิดขึ้นได้อีกแค่ไหนก่อนสิ้นปี เพราะตอนนี้สหรัฐฯ ไม่ใช่แค่ต้องแข่งแย่งลูกค้าจีน แต่เรากำลังเสียส่วนแบ่งตลาดโลกในส่วนอื่น ๆ ไปด้วย" สเตราด์กล่าว