ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวลดลงทั้งกระดาน นำโดยราคาถั่วเหลืองที่ร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดยังกังวลเรื่องคำสั่งซื้อจากจีนที่ชะลอตัว ขณะที่ข้าวโพดและข้าวสาลีได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรและปริมาณผลผลิตโลกที่มีอยู่มาก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ -0.61% ปิดที่ 4.4500 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 3.50 เซนต์ หรือ -0.65% ปิดที่ 5.3500 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.75 เซนต์ หรือ -0.86% ปิดที่ 11.2800 ดอลลาร์/บุชเชล
ประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสำคัญยังคงเป็นทิศทางการส่งออกถั่วเหลืองไปยังจีน โดยนักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่ราคาถั่วเหลืองดิ่งลงเพราะยังไม่มีการยืนยันยอดขายล็อตใหม่ แม้ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ จะมียอดขายกว่า 2 ล้านตันหลังการสงบศึกการค้าในเดือนต.ค. แต่ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) กลับระบุว่า ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค. ไม่มียอดสั่งซื้อจากจีนเลย ซึ่งสวนทางกับเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีสหรัฐฯ คาดหวังว่าจีนจะซื้อให้ครบ 12 ล้านตันภายในสิ้นปี 2568
นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากปริมาณผลผลิตในซีกโลกใต้ โดยเฉพาะข้าวสาลีที่ได้รับผลกระทบจากการที่สำนักเศรษฐศาสตร์และวิทยาศาสตร์การเกษตรและทรัพยากรแห่งออสเตรเลีย (ABARES) ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตปี 2568/2569 ขึ้นเป็น 35.6 ล้านตัน เช่นเดียวกับฝั่งอเมริกาใต้ที่ StoneX ประเมินว่า แม้ผลผลิตถั่วเหลืองบราซิลจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 177.2 ล้านตัน แต่ก็ยังถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งสำคัญของธัญพืชสหรัฐฯ ในระยะต่อไป