ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (8 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดลบทั้งกระดาน นำโดยราคาสัญญาถั่วเหลืองที่ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 11 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.00 เซนต์ หรือ -0.22% ปิดที 4.4375 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 1.00 เซนต์ หรือ -0.19% ปิดที่ 5.3475 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11.50 เซนต์ หรือ -1.04% ปิดที่ 10.9375 ดอลลาร์/บุชเชล
ปัจจัยกดดันราคาสัญญาถั่วเหลืองมาจากความไม่มั่นใจในยอดสั่งซื้อจากจีน แม้ช่วงก่อนหน้านี้ราคาจะพุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 17 เดือนรับข่าวสงบศึกการค้า แต่ตัวเลขการซื้อจริงกลับน่าผิดหวัง ล่าสุดยอดขายรวมอยู่ที่ 2.7 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมาย 12 ล้านตันที่สหรัฐฯ ตั้งไว้มาก ถึงแม้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) จะยืนยันยอดขายใหม่เพิ่มอีก 1.32 แสนตันเมื่อวันจันทร์ก็ตาม
"จีนยังคงถ่วงเวลาในการสั่งซื้อ" ดอน รูส ประธานบริษัท U.S. Commodities ให้ความเห็น พร้อมเสริมว่า ตลาดกำลังจับตารายงานอุปสงค์-อุปทานของ USDA ในวันอังคารนี้ (9 ธ.ค.) หากมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ส่งออกลง ย่อมเป็นสัญญาณชี้ชัดว่าสถานการณ์คำสั่งซื้อจากจีนไม่สู้ดีนัก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มผลผลิตที่แข็งแกร่งของบราซิล ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญ บริษัทข้อมูลสภาพอากาศ Vaisala รายงานว่าสัปดาห์นี้จะมีฝนตกครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคใต้ที่จะมีฝนตกหนัก ช่วยคลายความกังวลเรื่องภัยแล้งและเอื้อต่อผลผลิตล็อตใหญ่ที่คาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
ด้านราคาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน โดยตลาดยังคงรอผลการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (10 ธ.ค.) แม้จะมีแรงหนุนเล็กน้อยจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเกษตรกรสหรัฐฯ อาจลดพื้นที่ปลูกพืชสองชนิดนี้ในปีหน้าเพื่อหันไปปลูกถั่วเหลืองแทนก็ตาม