ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (10 ธ.ค.) สัญญาข้าวสาลีและข้าวโพดปรับตัวลดลงตามความกังวลเรื่องปริมาณผลผลิตโลกที่มีมากเกินความต้องการ ในขณะที่ราคาถั่วเหลืองสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเดิมได้สำเร็จ ด้วยแรงหนุนจากยอดคำสั่งซื้อล็อตใหม่จากต่างประเทศ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.75 เซนต์ หรือ -0.84% ปิดที่ 4.4425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 5.00 เซนต์ หรือ -0.94% ปิดที่ 5.2950 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.00 เซนต์ หรือ +0.37% ปิดที่ 10.9125 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวสาลีปิดลบมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. การปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 นี้ เป็นผลสืบเนื่องจากรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์สต๊อกคงเหลือและผลผลิตข้าวสาลีของประเทศผู้ผลิตหลักอย่างรัสเซีย ออสเตรเลีย และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมผลผลิตจะเพิ่มขึ้น แต่เทรดเดอร์บางส่วนยังคงระมัดระวังความเสี่ยงจากการโจมตีเรือขนส่งในทะเลดำ ซึ่งอาจกลับมาเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกธัญพืชได้ทุกเมื่อ
ทางด้านถั่วเหลืองเคลื่อนไหวสวนทางตลาด ปัจจัยบวกหลักมาจากรายงานยอดขายเอกชนล็อตใหม่ของ USDA ได้แก่ ถั่วเหลือง 1.36 แสนตันส่งไปจีน, อีก 3.31 แสนตันไปยังปลายทางไม่ระบุชื่อ และกากถั่วเหลือง 1.2 แสนตันส่งไปโปแลนด์
แม้จะมีข่าวดีเรื่องยอดขาย แต่นักวิเคราะห์หลายรายยังมองว่า เป้าหมายส่งออกถั่วเหลืองรวมทั้งปีการตลาด 2568/69 ของสหรัฐฯ ที่ USDA ตั้งไว้ 44.5 ล้านตันนั้น "สูงเกินจริง" เนื่องจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกเบอร์หนึ่งของโลกกำลังจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตมหาศาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดไป
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Allendale Inc. ให้ความเห็นถึงประเด็นการแข่งขันราคานี้ว่า "เมื่อดูช่วงเปลี่ยนผ่านราคาส่งออกที่บราซิลกำลังจะเข้ามาคุมตลาดในอีก 4 เดือนข้างหน้า คงยากที่ผู้ซื้ออื่นที่ไม่ใช่จีนจะรีบจองถั่วเหลืองสหรัฐฯ"