ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงเทขายสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรเป็นวงกว้าง นักวิเคราะห์ระบุว่าผู้ค้ายังคงเทขายเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การส่งออกของสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัว และคาดการณ์ว่าประเทศบราซิลจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.00 เซนต์ หรือ -0.23% ปิดที่ระดับ 4.3975 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 8.50 เซนต์ หรือ -1.61% ปิดที่ 5.2075 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5.00 เซนต์ หรือ -0.46% ปิดที่ 10.7175 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดถั่วเหลืองได้รับแรงกดดันจากยอดการสั่งซื้อของจีนที่ต่ำกว่าคาดการณ์ แม้จะมีข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยยอดสั่งซื้อยังคงต่ำกว่าระดับ 12 ล้านเมตริกตันตามที่มีการส่งสัญญาณไว้
นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ (CFTC) ที่ระบุว่า กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการบริหารจัดการได้ถือครองสถานะซื้อสุทธิในสัญญาถั่วเหลือง CBOT ไว้จำนวนมากในช่วงกลางเดือนพ.ย. ทำให้ตลาดมีความเสี่ยงต่อการเทขายเพื่อล้างสถานะซื้อ
นอกจากนี้ ตลาดยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐฯ ของจีน แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุว่าจีนจะซื้อถั่วเหลือง 12 ล้านตัน แต่กรอบเวลายังไม่ชัดเจนและจีนยังไม่ได้ยืนยันตัวเลขดังกล่าว
ข้อมูล ณ วันศุกร์ (12 ธ.ค.) ชี้ว่า ยอดสถานะคงค้าง รวมในตลาดถั่วเหลือง CBOT ลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. แม้ราคาสัญญาจะปรับตัวลง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการเทขายล้างสถานะซื้อ
อนึ่ง ข้อมูล CFTC ดังกล่าวมีความล่าช้าเนื่องจากการปิดที่ทำการหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ นาน 43 วันในช่วงเดือนต.ค. และพ.ย. ซึ่งความล่าช้าของข้อมูลสร้างความสับสนให้ตลาดพอสมควร และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดการเทขายสินค้าโภคภัณฑ์ในวงกว้าง
นอกจากนี้ สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงเช่นกัน โดยได้รับปัจจัยกดดันจากปริมาณผลผลิตข้าวสาลีของอาร์เจนตินาที่มีอยู่มาก ส่งผลให้อุปทานในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง ขณะที่สัญญาข้าวโพดได้รับแรงกดดันจากราคาข้าวสาลีเลี้ยงสัตว์ของอาร์เจนตินาที่มีราคาถูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ข้าวโพด