ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (17 ธ.ค.) สัญญาข้าวสาลีร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 จนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ปัจจัยหลักมาจากปริมาณสินค้าในตลาดโลกที่มีอยู่มากและความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.00 เซนต์ หรือ +0.92% ปิดที่ระดับ 4.4050 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.25 เซนต์ หรือ -0.64% ปิดที่ 5.0625 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4.50 เซนต์ หรือ -0.42% ปิดที่ 10.5825 ดอลลาร์/บุชเชล
ส่วนราคาข้าวโพดขยับตัวสูงขึ้นตามความต้องการส่งออก แต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากตลาดข้าวสาลี เนื่องจากข้าวสาลีราคาถูกสามารถนำไปใช้ในตลาดอาหารสัตว์ทดแทนข้าวโพดได้ นักวิเคราะห์มองว่าจุดนี้เป็นปัจจัยที่ฉุดราคาข้าวโพดเอาไว้ไม่ให้ขึ้นไปมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน ถั่วเหลืองราคาปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เพราะเทรดเดอร์พากันปรับสถานะการลงทุนเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุด แม้ว่าจะมีรายงานยอดสั่งซื้อเพิ่มเติมจากจีนก็ตาม โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่ามียอดขายถั่วเหลืองในปีการตลาด 2568/2569 รวม 323,000 เมตริกตัน ซึ่งขายให้จีน 198,000 เมตริกตัน และปลายทางที่ไม่ระบุอีก 125,000 เมตริกตัน
เกษตรกรและกลุ่มเทรดเดอร์ในสหรัฐฯ ยังคงจับตามองท่าทีของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บรรลุข้อตกลงพักรบทางการค้าไปเมื่อปลายเดือนต.ค. 2568
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ที่ร่วงลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2568 ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงราคาเชื้อเพลิงชีวภาพและวัตถุดิบอย่างถั่วเหลืองด้วย แม้ราคาน้ำมันจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยพยุงราคาถั่วเหลืองได้ เพราะตลาดกังวลว่าจีนอาจจำกัดการนำเข้าพืชผลจากสหรัฐฯ
ในส่วนของข้าวสาลีขาว มีรายงานว่าผู้ส่งออกยกเลิกคำสั่งซื้อที่จะส่งไปจีนจำนวน 132,000 เมตริกตัน แม้จะเป็นปัจจัยลบแต่ตลาดไม่ได้ตื่นตระหนกนัก เพราะอุปทานข้าวสาลีโลกยังคงมีอยู่มหาศาล โดยเฉพาะผลผลิตจากซีกโลกใต้ที่กำลังเข้าสู่ตลาด ทั้งการปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตของอาร์เจนตินาสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.7 ล้านเมตริกตัน และออสเตรเลียที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ