ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) สัญญาธัญพืชปิดไร้ทิศทาง โดยสัญญาถั่วเหลืองร่วงลงต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง หลังสภาพอากาศในเขตเพาะปลูกของอาร์เจนตินาเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้นจากอุปสงค์ส่งออกที่สดใส
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 3.6625 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.25 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 4.245 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.25เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 10.5525 ดอลลาร์/บุชเชล
สภาพอากาศในอาร์เจนตินาเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม พยากรณ์อากาศระบุว่าอาจมีฝนตามมาอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ อาร์เจนตินาถือเป็นประเทศผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ส่งออกน้ำมันถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย
สัญญาน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวลงจากกระแสข่าวที่ว่า สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) อาจชะลอการประกาศบังคับใช้กฏระเบียบต่างๆกว่า 30 รายการ ซึ่งรวมถึงกฏระเบียบว่าด้วยการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพประจำปี 2560 ทำให้ส่งผลกระทบต่อน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเชื้อเพลิงชนิดดังกล่าว
สัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้รับอานิสงค์จากอุปสงค์ส่งออกที่แข็งแกร่ง และการผลิตน้ำมันเอทานอลซึ่งใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตเอทานอลในรอบสัปดาห์นี้อยู่ที่ 1.05 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงเล็กน้อย ขณะที่สต็อกน้ำมันเอทานอลปรับตัวขึ้นสัปดาห์นี้
โบรกเกอร์รายงานว่า เทรดเดอร์ในกลุ่มกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ได้มีการขายสัญญาถั่วเหลือง 4,500 สัญญา และสัญญาข้าวสาลี 2,000 สัญญา พร้อมเข้าซื้อสัญญาข้าวโพด 3,000 สัญญา
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาข้าวโพดดีดตัวขึ้น มาจากยอดส่งออกข้าวโพดไปยังเม็กซิโกที่แข็งแกร่ง และกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตข้าวโพดของอาร์เจนตินาอาจปรับตัวลง