ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีดีดตัวขึ้นเนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เหตุนักลงทุนวิตกแนวโน้มสงครามการค้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 3.6425 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 10.75 เซนต์ หรือ 2.24% ปิดที่ 4.91 ดอลลาร์/บุชเชล
อย่างไรก็ดี สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 8.6425 ดอลลาร์/บุชเชล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2559
โบรกเกอร์ในตลาด CBOT เปิดเผยว่า กลุ่มกองทุนได้ซื้อสัญญาข้าวสาลีประมาณ 3,000 ฉบับ ข้าวโพด 6,000 ฉบับ ขณะที่ขายสัญญาถั่วเหลืองไป 2,400 ฉบับ
แรงเทขายอย่างหนักในการซื้อขายครั้งก่อนหน้าได้ทำให้ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ดี สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีได้ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายครั้งล่าสุด รับตัวเลขผลผลิตข้าวโพดและข้าวสาลีรอบฤดูใบไม้ผลิของรัสเซียที่น้อยลง และยังเป็นผลจากแรงซื้อเก็งกำไร
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองยังคงปรับตัวลดลง หลังสหรัฐยังจัดการกับข้อพิพาททางการค้ากับจีนไม่ได้ โดยจีนเป็นประเทศที่ซื้อถั่วเหลืองเป็นอันดับต้นๆ
รายงานวิเคราะห์แยกเป็นรายรัฐจากหอการค้าสหรัฐ ระบุว่า รัฐวอชิงตัน รัฐลุยเซียนา และรัฐอิลลินอยส์ เป็นรัฐผู้ส่งออกถั่วเหลืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงเป็นอันดับต้นๆจากสงครามการค้า
โทมัส เจ โดโนค ประธานและซีอีโอหอการค้าสหรัฐ เตือนว่า "ภาษีนำเข้าเริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แรงงาน เกษตรกร และผู้บริโภคในสหรัฐ เนื่องจากตลาดต่างประเทศปิดรับสินค้าสหรัฐ ขณะที่ราคาสินค้าในสหรัฐก็ปรับตัวขึ้น"