ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวผันผวน โดยสัญญาข้าวสาลีปิดร่วงลงมากกว่า 1% หลังกลุ่มกองทุนเทขายจำนวนมาก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.ขยับขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 3.74 ดอลลาร์/บุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 8.895 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 5 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 4.645 ดอลลาร์/บุชเชล
โบรกเกอร์ประมาณการว่า กลุ่มกองทุนได้เทขายสัญญาข้าวสาลี 4,300 สัญญา สัญญาข้าวโพด 1,200 สัญญา ขณะที่เข้าซื้อสัญญาถั่วเหลืองไป 1,900 สัญญา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังราคาสัญญาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อสัปดาห์นี้
ด้านกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ยืนยันวานนี้ว่าได้รับรายงานจากกลุ่มผู้ส่งออกภาคเอกชนว่า มีการส่งออกข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวเมล็ดอ่อนสีน้ำตาลไปยังอียิปต์เป็นจำนวน 120,000 เมตริกตัน และส่งออกข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวเมล็ดแข็งสีน้ำตาลไปยังอิรัก 150,000 เมตริกตัน
ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยรายงานการส่งออกประจำสัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่า ในช่วงวันที่ 15-21 มี.ค. ข้าวสาลีของสหรัฐมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับไม่สามารถหนุนให้สัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้น ท่ามกลางแรงเทขายปริมาณมากที่เกิดขึ้น
USDA ระบุในรายงานว่า ในช่วงปีการตลาด 2561/2562 มีการส่งออกข้าวโพดเป็นปริมาณสุทธิ 904,500 เมตริกตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 6% และมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 4 สัปดาห์ 5%
ด้านสัญญาถั่วเหลืองและสัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณพื้นที่เพาะปลูกในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ รวมถึงการซื้อเก็งกำไร และกระแสข่าวที่ว่าบริษัทจีนกำลังประมูลซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐเพิ่มขึ้น