สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงมากกว่า 1% ในวันศุกร์ (2 พ.ค.) และปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสที่จะตัดสินนโยบายการผลิตน้ำมันในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 95 เซนต์ หรือ 1.60% ปิดที่ 58.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 61.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลงประมาณ 7.7% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงมากกว่า 8%
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสได้ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นวันเสาร์ (3 พ.ค.) จากเดิมกำหนดไว้ในวันจันทร์ (5 พ.ค.) โดยยังไม่ชัดเจนถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงวันประชุมดังกล่าว
กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร กำลังหารือกันว่าจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้งในเดือนมิ.ย.หรือไม่ หรือจะยังคงการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยตามแผนเดิม
ตลาดน้ำมันเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ลง
บรรดานักลงทุนยังคงระวังความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แม้จีนระบุในวันศุกร์ว่ากำลังพิจารณาข้อเสนอจากสหรัฐฯ เพื่อเปิดเจรจาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันในวันศุกร์ได้ถูกจำกัดไว้บางส่วน เนื่องจากตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้น หลังข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
นอกจากนี้ คำขู่ของทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบสองกับผู้ซื้อน้ำมันอิหร่าน ก็ช่วยพยุงราคาน้ำมันด้วย เนื่องจากอาจทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวอาจทำให้การเจรจากับอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์หยุดชะงัก และอาจส่งผลต่อการเจรจาการค้ากับจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอิหร่านรายใหญ่ที่สุดของโลก