ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ใกล้ทะลุระดับ 62 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่อนุญาตให้บริษัท เชฟรอน ส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลา
ณ เวลา 22.15 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. บวก 0.97 ดอลลาร์ หรือ 1.59% สู่ระดับ 61.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกใบอนุญาตแบบจำกัดให้บริษัท เชฟรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐ โดยอนุญาตให้เชฟรอนสามารถคงทรัพย์สินในเวเนซุเอลา ซึ่งรวมถึงการถือหุ้นในกิจการร่วมทุนด้านน้ำมันกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา (PDVSA)
อย่างไรก็ดี ภายใต้ใบอนุญาตดังกล่าว เชฟรอนจะไม่สามารถดำเนินงานในแหล่งน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมทั้งไม่สามารถส่งออกน้ำมัน หรือขยายการลงทุนใด ๆ ในประเทศ
ทั้งนี้ จุดประสงค์ของใบอนุญาตดังกล่าวก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชฟรอนมีการชำระเงินใด ๆ แก่รัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวหาปธน.มาดูโรว่าไม่มีความคืบหน้าในการส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศ และประสบความล้มเหลวในการปฏิรูปการเลือกตั้งเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศ
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการประชุมในวันนี้ (28 พ.ค.) และในวันเสาร์นี้ (31 พ.ค.)
ทั้งนี้ การประชุมในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับการกำหนด "เกณฑ์ขั้นต่ำ" (baseline) สำหรับระดับการผลิตน้ำมันในปี 2570 ส่วนการประชุมในวันเสาร์นี้จะเป็นการกำหนดการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนก.ค.
ประเด็นเกี่ยวกับการกำหนด "เกณฑ์ขั้นต่ำ" เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันในโอเปกพลัส เนื่องจากบางประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรัก ได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน จึงต้องการโควต้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บางประเทศ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา กลับมีการผลิตที่ลดลง
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ สมาชิกทั้ง 22 ชาติของกลุ่มโอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเรียกร้องให้สำนักงานใหญ่ของโอเปกจัดเตรียมกลไกเพื่อประเมินเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการผลิตน้ำมันในปี 2570 และการประชุมในครั้งนี้ไม่มีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตแต่อย่างใด
ส่วนในวันเสาร์นี้ สมาชิก 8 ชาติของกลุ่มโอเปกพลัสซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน จะจัดการประชุมแยกต่างหาก โดยคาดว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องสำหรับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.และมิ.ย.
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก อาจปรับลดราคาขายน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการ (Official Selling Price) หรือ OSP สำหรับลูกค้าในเอเชียในเดือนก.ค.ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า แหล่งข่าวจากโรงกลั่นน้ำมัน 4 แห่งในเอเชียเปิดเผยว่า ราคา OSP ของน้ำมันดิบ Arab Light สำหรับเดือนก.ค. อาจลดลง 40-50 เซนต์/บาร์เรล สู่ระดับ 90 เซนต์ถึง 1 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.
การปรับลดราคาดังกล่าวจะทำให้ราคา OSP ของ Arab Light ในเดือนก.ค.อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียมักประกาศราคา OSP ในวันที่ 5 ของแต่ละเดือน ซึ่งจะเป็นเกณฑ์กำหนดราคาน้ำมันของอิหร่าน คูเวต และอิรัก และจะมีผลต่อราคาน้ำมันดิบราว 9 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ ผลสำรวจของรอยเตอร์ยังพบว่า ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคา OSP สำหรับน้ำมันดิบเกรดอื่น ได้แก่ Arab Extra Light, Arab Medium และ Arab Heavy โดยอาจปรับลดลงในเดือนก.ค.ราว 30-45 เซนต์/บาร์เรล เมื่อเทียบกับระดับราคาน้ำมันในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลในวันพรุ่งนี้