สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรล่าสุดที่ยุโรปประกาศใช้กับรัสเซียนั้น จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 67.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ 18 ต่อรัสเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการทำสงครามในยูเครน โดยมาตรการดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่บริษัทนารายา เอนเนอร์จี (Nayara Energy) ของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่กลั่นจากน้ำมันดิบรัสเซีย
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมองว่ามาตรการคว่ำบาตรล่าสุดนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทาน้ำมันมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการที่เดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินซึ่งกล่าวว่า รัสเซียได้เตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกแล้ว
มาตรการคว่ำบาตรของ EU เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ขู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เว้นแต่ว่ารัสเซียจะยอมทำข้อตกลงสันติภาพภายใน 50 วัน
เบเกอร์ ฮิวจ์ส (Baker Hughes) รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการพลังงานในสหรัฐฯ ปรับลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันลง 2 แท่น เหลือ 422 แท่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นยอดรวมที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ล่าสุดโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ได้ทันก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ภาษีนำเข้าชุดใหม่จะมีผลบังคับใช้