ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 79 เซนต์ นลท.จับตาผลกระทบทรัมป์คว่ำบาตรรัสเซีย

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 31, 2025 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (30 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กำหนดเส้นตายที่เร็วขึ้นในการกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน รวมทั้งการที่ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 73.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปธน.ทรัมป์ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ว่า เขาจะเริ่มใช้มาตรการลงโทษรัสเซีย เช่น การเก็บภาษีนำเข้า 100% จากประเทศคู่ค้าของรัสเซีย หากรัสเซียไม่ยุติสงครามในยูเครนภายใน 10-12 วัน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเส้นตายเดิมที่ 50 วัน

ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียในอัตรา 25% โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. พร้อมกับ "ค่าปรับ" จากนโยบายการค้าที่ปธน.ทรัมป์มองว่าไม่เป็นธรรม และจากการที่อินเดียซื้ออาวุธและพลังงานจากรัสเซีย นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้เตือนจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียรายใหญ่ที่สุดว่า จีนอาจเผชิญกับภาษีในอัตราสูงหากยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

นักวิเคราะห์จาก JP Morgan กล่าวว่า แม้ว่าจีนอาจจะไม่ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ แต่อินเดียได้ส่งสัญญาณแล้วว่าจะปฏิบัติตาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียในปริมาณ 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ