ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.30 หวั่นโอเปกพลัสเพิ่มผลิตทำอุปทานล้นตลาด

ข่าวต่างประเทศ Friday October 3, 2025 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 4 หลังมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 64.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะเพิ่มการผลิตน้ำมันมากถึง 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. ในการประชุมนโยบายวันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.นี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็น 3 เท่าของการเพิ่มผลิตในเดือนต.ค. เนื่องจากซาอุดีอาระเบียพยายามที่จะทวงคืนส่วนแบ่งตลาด

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 578,000 บาร์เรล

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า แนวโน้มอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากโอเปกพลัส รวมทั้งการกลั่นน้ำมันดิบทั่วโลกที่ชะลอตัวลงเนื่องจากการซ่อมบำรุง และอุปสงค์ที่มีแนวโน้มอ่อนแอตามฤดูกาลในช่วงหลายเดือนข้างหน้า อาจส่งผลให้สต็อกน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาภาวะอุปทานในรัสเซีย หลังจากรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G7 ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะยุติสงครามในยูเครน ขณะที่สหรัฐฯ ได้ผลักดันให้ชาติสมาชิก G7 เรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้นกับประเทศที่ยังนำเข้าน้ำมันรัสเซีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงที่ใช้ในการทำสงครามของรัสเซีย

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ได้เกือบทั้งหมดของภูมิภาคลูฮันสก์, ประมาณ 81% ของภูมิภาคโดเนตสก์ และประมาณ 75% ของภูมิภาคซาโปริซเซียและเคอร์ซอน พร้อมกับย้ำว่าจะไม่ยุติสงครามจนกว่ายูเครนจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ทั้งหมดเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ