ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 40 เซนต์ แต่ทั้งสัปดาห์ร่วงแรง กังวลโอเปกเพิ่มการผลิต

ข่าวต่างประเทศ Saturday October 4, 2025 06:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (3 ต.ค.) แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ร่วงลง 8.1% หลังมีข่าวความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 60.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 64.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 7.4% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 8.1% ซึ่งถือเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน และการที่ท่อส่งน้ำมันอิรักเคอร์ดิสถานกลับมาเดินหน้าหลังหยุดชะงักไป 2 ปี กดดันให้มีแรงขายน้ำมันอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสยังเริ่มเจรจากับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรื่องแผนสันติภาพ บวกกับข้อมูลสต็อกน้ำมันสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ ทำให้ยากที่จะมองตลาดน้ำมันในแง่บวกในระยะสั้น

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการเจรจาโอเปกพลัสระบุว่า 8 ประเทศสมาชิกอาจเพิ่มกำลังการผลิตในวันอาทิตย์นี้ โดยซาอุดีอาระเบียผลักดันให้มีการเพิ่มกำลังผลิตในวงกว้างเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ขณะที่รัสเซียเสนอให้ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตอย่างจำกัด

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่อุปทานจากโอเปกพลัสจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับการชะลอตัวของการกลั่นน้ำมันทั่วโลกเนื่องจากการซ่อมบำรุงและอุปสงค์ที่ลดลงตามฤดูกาลในหลายเดือนข้างหน้า อาจสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของตลาด

นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า เดือนก.ย.เป็นจุดเปลี่ยน โดยตลาดน้ำมันกำลังมุ่งเข้าสู่ภาวะอุปทานส่วนเกินขนาดใหญ่ในไตรมาส 4 และต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

ขณะเดียวกัน กระทรวงน้ำมันอิรักเปิดเผยว่า ท่อส่งน้ำมันจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานทางตอนเหนือของอิรักไปยังตุรกีกลับมาใช้งานได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำหนดเส้นตายให้ฮามาสตอบรับข้อเสนอเพื่อยุติสงครามในกาซาภายในคืนวันอาทิตย์นี้

ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เมื่อวันพุธระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการกลั่นและความต้องการชะลอตัว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคา ขณะที่ผู้ผลิตลดจำนวนแท่นขุดเจาะลง 2 แท่น เหลือ 422 แท่น ตามรายงานของ Baker Hughes

นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ เกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่น El Segundo ของบริษัทเชฟรอน (Chevron) ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงกลั่นใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งตะวันตกที่มีกำลังการกลั่น 290,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าไฟถูกจำกัดอยู่ในบางพื้นที่ และนักวิเคราะห์มองว่าผลกระทบต่อการผลิตและราคาน้ำมันน่าจะเป็นไปอย่างจำกัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ