ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน โดยก่อนหน้านี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการน้ำมัน จนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อวันศุกร์ (10 ต.ค.)
ณ เวลา 19.03 น. ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.49% สู่ระดับ 59.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 ต.ค.) จีนได้ประกาศมาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายากและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตสินค้าไฮเทค
ต่อมาในวันศุกร์ (10 ต.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวหาจีนว่ามีท่าที "เป็นปรปักษ์อย่างยิ่ง" และกำลังจับสหรัฐฯ และทั่วทั้งโลกเป็นตัวประกัน ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออก พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด และคุมเข้มการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) เมื่อถูกถามว่าการเก็บภาษีเพิ่มเติมดังกล่าวยังคงเป็นแผนการอยู่หรือไม่ โดยทรัมป์ตอบว่า "ใช่ในตอนนี้" แต่ "มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น" พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า สำหรับหลายคน วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเขากำหนดให้เป็นวันที่อัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้นั้น อาจฟังดูเหมือนใกล้เข้ามาแล้ว แต่สำหรับตัวเขาเอง กลับมองว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมาก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ายังมีช่องว่างให้ทั้งสองประเทศสามารถถอยออกจากความขัดแย้งได้
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีน โดยระบุว่า "ท่านประธานาธิบดีสีเพิ่งมีช่วงเวลาที่แย่ เขาไม่ต้องการภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสำหรับประเทศของเขา และผมก็ไม่ต้องการเช่นกัน สหรัฐฯ ต้องการช่วยจีน ไม่ใช่ทำร้าย"