ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 2% ใกล้หลุดระดับ 58 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันโลกในปีนี้
ณ เวลา 22.50 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลบ 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.24% สู่ระดับ 58.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวหาจีนว่าพยายามทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอด้วยการออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อภาคเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อ Financial Times นายเบสเซนต์กล่าวว่า มาตรการควบคุมแร่ธาตุหายาก ถือเป็นความพยายามของจีนที่จะ "ลากทุกคนลงไปกับพวกเขา"
'ถ้าพวกเขาต้องการทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว พวกเขาเองจะได้รับผลกระทบมากที่สุด พวกเขากำลังอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและซบเซา โดยพยายามส่งออกเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาคือพวกเขากำลังทำให้สถานะของตนเองในโลกย่ำแย่ลง' นายเบสเซนต์กล่าว
รัฐบาลจีนประกาศเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ว่า จีนจะไม่อนุญาตให้มีการส่งออกแร่หายากที่มีวัตถุประสงค์ทางการทหาร โดยเป็นครั้งแรกที่จีนระบุอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐซึ่งใช้แร่หายากในการผลิตอาวุธ เช่น เครื่องบินรบ F-35, ขีปนาวุธ Tomahawk และระเบิดอัจฉริยะ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. รวมทั้งขู่ยกเลิกการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่มีกำหนดจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก (APEC) ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปทานน้ำมันโลกในปีนี้ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมัน โดยระบุถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา