สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (29 ต.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่จะมีต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 64.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 900,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
นักวิเคราะห์จาก UBS กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงมากกว่าคาดสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ได้แสดงมุมมองบวกว่า การเจรจากับปธน.สีที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้ในวันนี้ (30 ต.ค.) จะเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งยังได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐฯ สามารถสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีความกังวลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยแม้ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุดตามคาด แต่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.นั้น ยังไม่แน่นอน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.นี้ ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สมาชิกทั้ง 8 ประเทศของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย มีแนวโน้มที่จะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. โดยมีเป้าหมายเพื่อทวงคืนส่วนแบ่งตลาด