สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (25 พ.ย.) หลังจากยูเครนส่งสัญญาณยอมรับกรอบข้อตกลงสันติภาพที่ผลักดันโดยสหรัฐฯ โดยท่าทีดังกล่าวของยูเครนอาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติสงครามกับรัสเซียที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี และจะปูทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการค้าน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลให้รัสเซียสามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.51% ปิดที่ 57.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 62.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
สื่อรายงานว่า ยูเครนได้ยอมรับร่างข้อตกลงสันติภาพฉบับที่แก้ไขแล้ว ในการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนในกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวานนี้ ขณะที่คณะผู้แทนของรัสเซียก็อยู่ในกรุงอาบูดาบีเช่นกัน แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าได้เข้าร่วมการเจรจาหรือไม่
ด้านผู้แทนยูเครนรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยูเครนสนับสนุนสาระสำคัญของกรอบข้อตกลงสันติภาพ ภายหลังการเจรจาที่กรุงเจนีวาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเสริมว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะหารือกันเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวที่สุดของกรอบข้อตกลงดังกล่าว
รัสเตม อูเมรอฟ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของยูเครนเปิดเผยว่า ปธน.เซเลนสกีอาจจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อสรุปข้อตกลงกับปธน.ทรัมป์ในการยุติสงครามกับรัสเซีย
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัสเซียจะยอมรับข้อตกลงที่แก้ไขแล้วหรือไม่ เนื่องจากรัสเซียยังคงสงวนท่าทีเกี่ยวกับการหารือในอาบูดาบี
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนในเรื่องดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นจากการที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 13 ราย อีกทั้งส่งผลให้ระบบการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวต้องหยุดชะงัก
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันภายในประเทศ