สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (26 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มที่จะเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด และจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.21% ปิดที่ 58.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 63.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 85% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งการให้คณะเจรจาของสหรัฐเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน อาจเดินทางเยือนสหรัฐภายในไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อสรุปข้อตกลง
ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของปธน.ปูตินกล่าวว่า รัสเซียได้รับสำเนาล่าสุดของข้อเสนอจากสหรัฐฯ เพื่อยุติสงครามยูเครนแล้ว และให้การยอมรับในบางส่วนของข้อเสนอดังกล่าว แต่ประเด็นอื่น ๆ ยังคงต้องมีการหารือเพิ่มเติม พร้อมกับกล่าวว่าร่างข้อเสนอฉบับใหม่จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างจริงจัง และรัสเซียยังไม่ได้หารือเรื่องนี้กับฝ่ายใด
ขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวในเรื่องนี้ว่า ร่างข้อเสนอดังกล่าวเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีการปรับปรุงแก้ไขจากข้อเสนอ 28 ข้อก่อนหน้านี้ หลังจากถูกวิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ต่อรัสเซีย
สำหรับรายงานอื่น ๆ ที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันนั้น สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 55,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล
ทางด้าน Baker Hughes ผู้ให้บริการด้านพลังงานเปิดเผยในวันพุธว่า บริษัทพลังงานในสหรัฐฯ ได้ลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันลง 12 แท่น เหลือ 407 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564