ราคาน้ำมันร่วง หลังอุปทานน้ำมันเบนซินเพิ่มสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.08 ดอลลาร์ แตะที่ 97.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ. ก่อนขยับมาซื้อขายที่ 97.33 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 12.10 น. ตามเวลาลอนดอน

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ร่วงลง 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.17 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลอาร์เจนตินาเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และได้ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค. เพิ่มขึ้น 365,000 บาร์เรล แตะ 218.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 789,000 บาร์เรล สู่ระดับ 126.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร และอัตราว่างงานเดือนก.ค. การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. ดัชนีภาคการผลิตจากมาร์กิต และ ISM ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง