สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 97.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนก.ค. นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในต่างประเทศยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แม้ว่าสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. พุ่งขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล แตะ 367 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 122.5 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะ 212.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.8% สู่ระดับ 91.6% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลง 0.4%