รายงานของสำนักงานระบุว่า ในช่วง 6 เดือนจนถึงเดือนต.ค. มีโครงการเหมืองใหม่ๆเกิดขึ้นเพียง 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 597 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นจำนวนและมูลค่าที่ต่ำที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ
“การปรับตัวลงของราคาแร่ได้เพิ่มแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อการตัดสินใจเรื่องการลงทุน บริษัทผู้พัฒนาหลายรายได้กลับไปศึกษาความเป็นไปได้ ท่ามกลางสถานการณ์ราคาที่ต่ำจนเกินคาด" แถลงการณ์ของสำนักงานระบุ
แต่อย่างไรก็ดี ได้มีการลงทุนอย่างคึกคักในธุรกิจก๊าซภายหลังการค้นพบแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ในบริเวณนอกชายฝั่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งได้ช่วยชดเชยการชะลอตัวลงของโครงการเหมืองแร่
การค้นพบดังกล่าวส่งผลให้ออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าประเทศการ์ตาขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซ LNG รายใหญ่ที่สุดในโลกภายในสิ้นทศวรรษนี้ “การลงทุนในทรัพยากรและภาคพลังงานของออสเตรเลียคาดว่า จะขยายตัวเล็กน้อยในระยะกลาง เนื่องจากโครงการ LNG ขนาดใหญ่แล้วเสร็จ" รายงานระบุ “การดำเนินโครงการในปัจจุบันผ่านการพัฒนาโครงการท่อขนส่งยังไม่มีขนาดใหญ่มากพอที่จะช่วยชดเชยในส่วนของการลงทุนที่ลดลงในโครงการ LNG ขนาดใหญ่ที่แล้วเสร็จได้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน