อย่างไรก็ดี สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ระบุในรายงานวานนี้ว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,320 ดอลลาร์ในไตรมาส 4
ราคาทองดิ่งลง 1.4% ในปีที่แล้ว หลังจากทรุดตัวลง 28% ในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการร่วงลง 2 ปีติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2000
ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว จากการคาดการณ์ที่ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอจะทำให้ธนาคารกลางต่างๆพากันใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์สำหรับสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพรุ่งนี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าอีซีบีอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.5% ซึ่งลดลง 0.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงสู่ระดับ 3.7% ในปีหน้า เนื่องจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่ชะลอตัวลง
นักลงทุนจับตาอีซีบีในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์เพื่อผลักดันให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด