สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 55.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในตระกร้าเงินเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเปิดเผยก่อนหน้านั้น เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาด
เบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านน้ำมันรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ณ วันที่ 20 มี.ค.ปรับตัวลดลง 56 แท่น มาอยู่ที่ 1,069 แท่น นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดน้ำมัน ขณะที่การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันได้กดดันให้ผู้ผลิตน้ำมันจากหินชั้นของสหรัฐปรับลดกำลังการผลิตลง
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอยู่ที่ 9.419 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
รายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 9.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 458.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าปีที่ผ่านมา 82.7 ล้านบาร์เรล ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบตามสัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 54.4 ล้านบาร์เรล สำนักข่าวซินหัวรายงาน