สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากตลาดหุ้นจีนพลิกกลับมาปิดบวกอย่างแข็งแกร่งกว่า 200 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานขึ้นถ้วนหน้า และยังช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย โดยเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงหนุนหลังจากทางการจีนใช้มาตรกาต่างๆเพื่อสกัดการร่วงลงของตลาด รวมถึงการที่สถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ของจีน (CSF) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ให้บริการสินเชื่อสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นด้วยมาร์จิ้น จะจัดหาสภาพคล่องให้กับผู้ที่ต้องการซื้อกองทุนสาธารณะ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันหลายวัน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ค. เพิ่มขึ้น 384,000 บาร์เรล สู่ระดับ 465.8 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 299,000 บาร์เรล สู่ระดับ 56.7 ล้านบาร์เรล