ณ เวลา 19.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 2.81% สู่ระดับ 37.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายบิจาน ซากาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะเข้าร่วมการประชุมเพื่อหารือการจำกัดการผลิตน้ำมัน ก็ต่อเมื่อสามารถผลิตน้ำมันแตะระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของอิหร่านมีแนวโน้มแตะระดับ 2 ล้านบาร์เรล/วันในวันที่ 19 มี.ค. โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.75 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.
แหล่งข่าวจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า การประชุมของกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่ม มีแนวโน้มที่จะมีขึ้นในกลางเดือนหน้าที่กรุงโดฮา เพื่อหาข้อตกลงในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อทำให้ราคาฟื้นตัวขึ้น
ก่อนหน้านี้ การประชุมดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 มี.ค.ที่รัสเซีย แต่ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอิหร่านไม่ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมการประชุม ขณะที่อิหร่านยืนยันมาโดยตลอดว่าต้องการเดินหน้าการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยกับส่วนที่ขาดหายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร
ทางด้านซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย เวเนซุเอลา และกาตาร์บรรลุข้อตกลงในเดือนที่แล้วในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน แต่มีข้อแม้ว่าประเทศอื่นจะต้องให้ความร่วมมือด้วย
มอร์แกน สแตนเลย์ออกรายงานเตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก และการผลิตน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จะสกัดการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
มอร์แกน สแตนเลย์ระบุว่า "ขณะนี้ราคาน้ำมันดูเหมือนได้แตะจุดต่ำสุดแล้ว แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวซบเซาตลอดทั้งปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า"
ขณะเดียวกัน มอร์แกน สแตนเลย์เปิดเผยว่า ภาวะราคาน้ำมันถูกไม่ได้ช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้
"เมื่อราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ผลบวกด้านรายได้ที่ผู้บริโภคได้รับ จะน้อยกว่าต้นทุนของผู้ผลิตน้ำมัน ทำให้การดิ่งลงของราคาน้ำมันกลายเป็นสิ่งที่ให้ผลเป็นลบในที่สุด"