สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วัน
อย่างไรก็ดี การเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลง และการผลิตน้ำมันที่ประสบปัญหาในไนจีเรีย ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ณ เวลา 19.21 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 62 เซนต์ หรือ 1.21% สู่ระดับ 50.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 8,745,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 8,735,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มติดอาวุธไนจีเรียได้ทำการระเบิดบ่อน้ำมันอีกแห่งหนึ่งของบริษัทเชฟรอน ขณะที่เมินข้อเสนอของรัฐบาลที่ต้องการจัดการเจรจาสันติภาพ
การระเบิดบ่อน้ำมันเมื่อวานนี้ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่รัฐบาลเสนอที่จะหยุดยิงเพื่อให้มีการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งกับกลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ซึ่งยืนกรานว่าจะไม่เจรจากับรัฐบาล
การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการก่อเหตุรุนแรงครั้งที่ 4 ในรอบหลายสัปดาห์ต่อแหล่งน้ำมันของบริษัทเชฟรอน
นอกจากนี้ กลุ่มติดอาวุธยังได้โจมตีแหล่งน้ำมันของบริษัทเชลล์ และเอกิป ส่งผลให้การผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน