สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจะช่วยหนุนอุปสงค์พลังงานให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 45.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ โดยยอดค้าปลีกมิ.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน เพราะได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บรืโภคในด้านพลังงาน, ที่อยู่อาศัย และการรักษาสุขภาพ
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2015 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2/2559 ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนความคาดหวังที่ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศได้เริ่มเข้าสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ NBS ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2559 ขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6.5 - 7%