สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์พุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจในผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการในช่วงปลายเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 43.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 45.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาดยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 525.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล
ด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 942,000 บาร์เรล สู่ระดับ 525.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 52.2
โอเปกจะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย ซึ่งที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนไม่มั่นใจต่อการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากการเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างจบลงด้วยความล้มเหลว