สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่รายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 51.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียปรับตัวเพิ่มขึ้น 560,000 บาร์เรล/วัน จากสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 540,000 บาร์เรล/วัน
รายงานยังระบุด้วยว่า อิหร่านได้เน้นย้ำถึงแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบขึ้นสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ไนจีเรียได้ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 400,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ ซึ่งระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 432 แท่น
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย