สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังมีรายงานว่า อิรักพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงที่ยอมรับได้สำหรับทุกฝ่าย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 47.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 48.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ส่งสัญญาณว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่ลดกำลังการผลิต นอกจากนี้ โอเปกยังได้ยกเลิกการประชุมผู้เชี่ยวชาญกับกลุ่มประเทศนอกโอเปกเมื่อวานนี้ หลังจากซาอุดิอาระเบียแจ้งว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากโอเปกจำเป็นต้องหาทางขจัดความเห็นที่แตกต่างกันภายในกลุ่มเสียก่อน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอิรักได้ประกาศความพร้อมที่จะร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มโอเปก เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงที่ยอมรับได้สำหรับทุกฝ่าย
ทางด้านนายบิจาน ซานกาเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านคาดว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงกันได้ในประเด็นการลดกำลังการผลิต ซึ่งจะช่วยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้น
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะดิ่งลงอย่างหนักต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรล หรืออาจแตะ 35 ดอลลาร์/บาร์เรล หากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมวันพุธนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ และแมคควารีคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะดิ่งลงแตะ 35 ดอลลาร์/บาร์เรล หากกลุ่มโอเปกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในวันพุธนี้