ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งเกือบ 2% หลุด 53 ดอลลาร์ กังวลสหรัฐเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 9, 2017 21:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งเกือบ 2% หลุดระดับ 53 ดอลลาร์ในวันนี้ จากความกังวลที่ว่า การที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะและผลิตน้ำมัน จะส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต

ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 98 เซนต์ หรือ 1.82% สู่ระดับ 53.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดิ่งลงแตะระดับ 52.85 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลย์สคาดการณ์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 850-875 แท่นในปลายปีนี้ ขณะที่การสำรวจและการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 27% หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในปีนี้

ทางด้านบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 529 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนสูงสุด 4,530 แท่นในปี 1981 และแตะระดับต่ำสุดเมื่อเดือนพ.ค.ในปีที่แล้ว ที่ระดับ 404 แท่น

ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน

นอกจากนี้ การที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กระทบราคาน้ำมัน โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของน้ำมัน ขณะที่ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐเมื่อวันศุกร์ ซึ่งส่งสัญญาณแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของค่าแรงในเดือนธ.ค.

ณ เวลา 19.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์บวก 0.10% สู่ระดับ 102.3

นายชาร์ลส์ อีแวน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ระบุหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่เขาคาดไว้ก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ