ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 54 เซนต์ หลังสหรัฐเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 31, 2017 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ และอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในประเทศอื่นๆในการลดการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาให้ดีดตัวขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 54 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15 แท่น สู่ระดับ 566 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 สัปดาห์ และยังเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2015 โดยผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐต่างฉวยประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภาวะอุปทานน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อระงับการผ่านเข้าประเทศสหรัฐของพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ซึ่งได้แก่ ซีเรีย เยเมน ซูดาน โซมาเลีย อิรัก อิหร่าน และลิเบีย เป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยจากทุกประเทศเข้าสหรัฐ เป็นเวลา 120 วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ