สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับกลุ่มประเทศน้ำมันเดินหน้าลดการผลิตตามข้อตกลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 56.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และอิรักเดินหน้าลดการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2559 กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2560 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรชาวอิหร่านจำนวน 13 คน และองค์กร 12 แห่ง เพื่อเป็นการลงโทษต่อการที่อิหร่านได้ทำการทดสอบขีปนาวุธ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุรายชื่อบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร 13 คน รวมทั้งองค์กร 12 แห่ง ซึ่งบางแห่งตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เลบานอน และจีน
ทางด้านนายฮอลเซน เดห์แกน รมว.กลาโหมอิหร่าน ยืนยันว่า การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านไม่ขัดต่อมติคณะมนตรีความมั่นคง
"การทดสอบขีปนาวุธสอดคล้องกับโครงการของเรา และเราจะไม่ให้คนภายนอกเข้ามาแทรกแซงกิจการป้องกันประเทศของเรา" เขากล่าว
"การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านไม่ขัดแย้งกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน และไม่ขัดต่อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2231" นายเดห์แกนกล่าว
คณะมนตรีความมั่นคงออกมติดังกล่าวเพื่อให้การรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ พร้อมกับระบุห้ามอิหร่านดำเนินกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธที่มีการออกแบบให้สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์