สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.86 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 50.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 5% ปิดที่ 53.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 867,000 บาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล
ข้อมูลของ EIA สอดคล้องกับรายงานสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 11.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.9 ล้านบาร์เรล