สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 47.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก หลังจาก EIA เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 930,000 บาร์เรล วูนะดีล 527.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 191,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 562,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 723,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น 28,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของลิเบียยังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาด โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 760,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันและสต็อกน้ำมันที่สูงขึ้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตถึงสิ้นปีนี้ก็ตาม
โอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 25 พ.ค.เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.