สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนหลังจากอิรักและอัลจีเรียได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 50.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 438,000 บาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 150,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 538,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากอิรักและอัลจีเรียได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวานนี้ เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการขยายระยะเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยนายจาบาร์ อาลี อัล-ลูไอบี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิรัก กล่าวว่า จะมีการนำเสนอแนวคิดใหม่ๆในการประชุมของกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พ.ค. โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม
ทางด้านอิรักซึ่งเป็นประเทศผลิตน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของโอเปก ได้ให้คำมั่นลดกำลังผลิต 210,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 4.351 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2559 กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นช่วงกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2560 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน
โอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 25 พ.ค.เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.