สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ขานรับคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 47.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ อิรักและอัลจีเรียได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการขยายระยะเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยนายจาบาร์ อาลี อัล-ลูไอบี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิรัก กล่าวว่า จะมีการนำเสนอแนวคิดใหม่ๆในการประชุมของกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พ.ค.
ขณะที่รายงานของโอเปกระบุว่า กลุ่มโอเปกเดินหน้าลดการผลิตอย่างต่อเนื่องตามแผน โดยผลผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนเม.ย.ลดลงสู่ระดับ 31.73 ล้านบาร์เรล/วัน หมายความว่าโอเปกลดการผลิตเกินกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับที่กลุ่มตกลงกันในการประชุมเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้นในกรอบจำกัดเท่านั้น หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 9 แท่น สู่ระดับ 712 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 17 ติดต่อกัน
การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า
ตลอดสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากร่วงลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ส่วนราคาน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 3.6%