สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากรายงานที่ว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ค. แม้สมาชิกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 46.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 48.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก ขานรับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่พุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกพุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ถึงแม้ทางกลุ่มได้บรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้น 336,100 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.1 ล้านบาร์เรล/วัน นำโดยลิเบีย และไนจีเรีย ซึ่งได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของโอเปก
การผลิตน้ำมันของลิเบียพุ่งขึ้นมากกว่า 178,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 730,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ไนจีเรียเพิ่มการผลิตมากกว่า 174,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.68 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ไนจีเรียเป็นสมาชิกโอเปกในแอฟริกาที่ผลิตน้ำมันมากที่สุด โดยสามารถแซงหน้าแองโกลา
ส่วนการผลิตน้ำมันของอิรักเพิ่มขึ้นมากกว่า 44,000 บาร์เรล/วัน รายงานของโอเปกยังระบุด้วยว่า มีเพียง 4 ประเทศที่ผลิตน้ำมันต่ำกว่าข้อตกลงในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และแองโกลา
นักลงทุนจับตาการประชุมครั้งต่อไปของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยสมาชิกโอเปกจะทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน