สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 44.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. โดยเป็นการปรับลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาด โดยรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 894,000 บาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 583,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 118,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ รายงานสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ออกมาสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 851,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย.
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในไตรมาส 3 ท่ามกลางปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าราคาน้ำมัน WTI จะมีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 47.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 3 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 55.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อตลาดน้ำมัน โดยมองว่าอุปสงค์ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่โอเปกอาจปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐอาจลดการผลิต หากเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น