ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.11 หลังสหรัฐเผยแท่นขุดเจาะลดลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 6 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday July 1, 2017 08:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 24 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 46.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 47.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 756 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 23 สัปดาห์ติดต่อกันก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ การที่สหรัฐใช้งานแท่นขุดเจาะน้ำมันลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ช่วยคลี่คลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาด อีกทั้งเพิ่มความหวังว่า ความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันนั้น จะสัมฤทธิ์ผล

อย่างไรก็ตาม แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ สู่ระดับ 47 ดอลลาร์/บาร์เรล และ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า เนื่องจากเห็นว่า ภาพรวมการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย รวมทั้งอุปสงค์ที่อ่อนแอนั้น จะส่งผลให้ปริมาณอุปทานน้ำมันทั่วโลกพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ทางธนาคารยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สู่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ