ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.03 หลังข้อมูลชี้สหรัฐชะลอการผลิตน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 4, 2017 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 5 ปี หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวลดลง และแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 47.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 49.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากผลสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 756 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. โดยเป็นการปรับลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016

นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นด้วย โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 55.1

ทางด้านบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 52.7 ในเดือนพ.ค. แต่ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ