สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 52.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.45 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 475.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.42 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 131,000 บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 7.8 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจาก EIA ได้ปรับลดคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2561 โดยระบุว่า การผลิตน้ำมันในปี 2561 จะเพิ่มขึ้น 560,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.91 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งระบวุ่า การผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน EIA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐปี 2560 จะเพิ่มขึ้น 340,000 บาร์เรล/วัน จากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งระบุว่าจะเพิ่มขึ้น 310,000 บาร์เรล/วัน ส่วนในปี 2561 นั้น คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 330,000 บาร์เรล/วัน จากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งระบุว่าจะเพิ่มขึ้น 360,000 บาร์เรล/วัน