สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 52.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดปรับตัวลงหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 856,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 17,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 860,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานที่ว่า นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียได้ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปรับลดการผลิตน้ำมัน โดยซาอุดิอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับเฉลี่ย 5 ปี เพื่อสร้างความสมดุลในตลาดน้ำมันโลก
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในอิรัก ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน (KRG) ประกาศระงับผลประชามติแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อวานนี้ เพื่อปูทางสู่การเจรจากับรัฐบาลอิรัก โดยยึดรัฐธรรมนูญของอิรักเป็นหลัก
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างอิรักและเขตปกครองชาวเคิร์ดทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ชาวเคิร์ดได้จัดการลงประชามติเพื่อประกาศแยกเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ด รวมถึงพื้นที่ขัดแย้งออกจากอิรักเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา