สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 54.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 60.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น 46,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.55 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 2.13 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนในระหว่างวัน เนื่องจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4 ล้านบาร์เรล เทียบกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 456.8 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนยังคงขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะตกลงขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีหน้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะอภิปรายในประเด็นการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต