สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปิดท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือ, การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธจากเยเมนเข้าใส่เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบีย
ณ เวลา 21.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.77% สู่ระดับ 57.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันโฟร์ตี้ส์ในทะเลเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดส่งน้ำมัน 450,000 บาร์เรล/วันในเดือนนี้ หลังจากที่มีการพบรอยแตกของท่อส่งน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากข่าวที่ว่า มีการยิงขีปนาวุธจากเยเมนเข้าใส่กรุงริยาดห์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบีย แต่ราคาลดช่วงบวกในเวลาต่อมา หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่าสามารถสกัดขีปนาวุธดังกล่าว ส่งผลให้ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุน หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 4 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์
อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากถูกจำกัดจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จะดึงดูดให้บริษัทมากขึ้นทำการผลิตน้ำมัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้